เรื่องราวขำ ๆ ของรถเมล์ไทย | คลังความรู้เล็กๆ รู้อะไรมาก็ใส่ลงไป

เรื่องราวขำ ๆ ของรถเมล์ไทย


พวกเราคนไหนที่ขึ้นรถเมล์อยู่เป็นประจำทุกเช้า-เย็น

แบบว่ามีคนขับรถส่วนตัวมารับ-ส่งให้ถึงที่(ป้าย)

มีเพื่อนร่วมทางอยู่เป็นโขยงสนองนโยบายประหยัดพลังงาน

ว่าแต่พวกเราเคยสังเกตรถเมล์สายที่เรานั่งอยู่ทุกวันบ้างเปล่าว่าเป็นยังไง

ถ้าไม่เคย...เรามีอะไรมาให้อ่านกันจ๊ะ






ปอ. 10 (พระประแดง-รังสิต)

รถเมล์ สายที่ 'หยิ่ง' ที่สุดในประเทศไทย
คาดว่าคนขับทั้งหลายคงเป็นคนรวยแอบมาขับรถเล่นแก้เซ็งไปวันๆ ไม่ง้อผู้โดยสาร
ยิ่งรถตัวเองโล่งเท่าไหร่ยิ่งชอบ ไม่จอดรับผู้โดยสาร ต่อให้โบกจนมือหัก
และมีวิธีป้องกันผู้โดยสารจะขึ้น โดยการไปจอดป้ายไกลๆ เพื่อให้ผู้โดยสารลง
แล้วซิ่งทันที ต่อให้คนที่จะขึ้นวิ่งไปถึงประตูก็แล้วเหอะ แถมเป็นรถหายาก
นานๆมาสักคันนึง ถ้าพลาดแล้วละก็ ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวกินรอคันต่อไปได้เลย

สาย 8 (แยกคลองตลาด-แฮปแลนด์)

รถเมล์สายที่ซิ่งเร็วที่สุดในประเทศไทย
คาดว่าคนขับส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักแข่งรถมือสมัครเล่นที่ตกงาน
หรือสอบตกจากการเทิร์นโพร เลยหันเหชีวิตมาขับรถเมล์แทน
แต่มองหน้าแล้วนึกว่าเพิ่งหนีออกมาจากคุก
ขอแนะนำสำหรับผู้โดยสารหน้าใหม่ว่าอย่านั่งเบาะหน้า (ยาวๆ) เด็ดขาด
หัวคุณอาจโขกหรือพุ่งชนกระจกหน้ารถได้ พึงจับราวให้มั่น ก้าวขึ้น-ลงให้ไว
เวลาคนโบกให้จอด มันไม่ค่อยจอดตรงที่คนยืนคอย มันจะวิ่งเลยไปให้คนวิ่งตาม
พอคนที่วิ่งเร็วที่สุดตามไปถึงแล้วก้าวขาจะขึ้นไป มันจะกระตุกรถทีนึง
บังเอิญว่าคนโดยสารกระโดดขึ้นไปได้ มันจะกระชากรถอีกทีให้หน้าคะมำไปข้างหน้า
คนขับมันจะหันมามองอย่างสะใจ แล้วกระตุกรถไปเรื่อยๆ
ให้คนโดยสารคนต่อไปรู้รสชาดอย่างทั่วถีง.....
ทีนี้อีตอนขาลง ผู้โดยสารกดกริ่งครั้งแรก มันยังวิ่งตะบึงอย่างเมามัน
ผู้โดยสารกดกริ่งอีก มันจะตะคอกว่า "กดครั้งเดียว...รู้แล้ว..เดี๋ยว
(เซ็นเซอร์) ไม่จอดซะนี่!" แล้วก็เบรคอย่างแรง
ผู้โดยสารทั้งคันต่างพากันหาหลักจับยึดบ้าง ที่จับไม่ทันก็หน้าคะมำ คว่ำเค้เก้
รถยังไม่จอดสนิทดี กระเป๋า (ซึ่งหน้ามพอกัน) มันจะบอก "ลงเร็วๆ .. ลงเร็วๆ"
ผู้โดยสารคนต่อไปเพิ่งก้าวขาซ้ายลงไป คนขับมันจะกระชากรถไปเรื่อยๆ
ใครลงทันก็โชคดีไป ใครไม่ทันก็หน้าจ๋อย ยอมรับสภาพไปลงป้ายหน้าเอา

ปอ. 6 (พระประแดง-ปากเกร็ด)

รถเมล์สายที่วิ่งยาวที่สุด เริ่มต้นสายจากจังหวัดสมุทรปราการ
พาเที่ยวชมรอบเมืองกรุงเทพฯ อาทิ พระปรางค์วัดอรุณฯ สะพานพุทธฯ วัดโพธิ์
ท่าเตียน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ สนามหลวง วัดพระแก้ว ฯลฯ
ไปจนสุดสายที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยแพ็คเก็จราคาสุดประหยัด
(สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ-นนทบุรี) เพียง 18 บาท ตลอดการเดินทาง
(กรุณานำอาหารมาเอง) เหมาะกับการพาคนแก่และเด็กเดินทางเล่น
เพราะจำกัดความเร็วเพียง 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปลอดภัยแน่ๆ สนใจติดต่อ ขสมก.
เริ่มทัวร์ได้ 5.30 ถึง 21.00 น.
ปล. เนื่องจากใช้แอร์ระบบ Hottest First ป้องกันผู้โดยสารหนาวจนแข็งตาย
ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อหนาวมาแต่ประการใด บางคันก็เป็นยี่ห้อ Moonlight
ซึ่งเมื่อมีแสงจันทร์จึงจะเย็น

ปอ. 4 (เป็นรถที่แน่นสุดในประเทศไทยแล้วมั้ง)

ทุกวันเราต้องพบนักห้อยโหนกายกรรมออกมาจากตัวรถ
จนหวาดเสียวว่าจะเกิดอันตรายกับเขาเหล่านั้นหรือเปล่า
กระเป๋ารถเมล์ทุกคนได้รับการอบรมให้พูดเหมือนกันคือ "ขึ้นบนมาหน่อยสิคะ"
"เดินหน้าชิดในหน่อย" "คนหน้าคนหลังช่วยเดินหน่อยสิคะ"
บางทีก็ไม่เคยดูเลยว่าสภาพในรถเป็นไง
ประมาณว่าโดนตั้งโพรแกรมให้พูดยังไงก็พูดตาม
หากโดนกระเป๋ารถถามว่า "ชิดในหน่อย..ที่ข้างๆ จะเอาไว้เตะตะกร้อเหรอ?"
ก็ตอบไปเลยว่า "เอาลูก (ตะกร้อ) มาให้เด่ะ! จะเตะให้ดู"
หรือบ้างก็ตะโดนกลับมาว่า "คุณผู้หญิงด้านหลัง ท้องไม่มีพ่อแล้ว!"
บางคนเกาะไปด้วยมือเดียวเท้าเดียวเท่านั้นเก่งจริงๆ วันไหนโชคดีขึ้นได้
จะไปถีงออฟฟิศในสภาพหัวเหอเสื้อผ้ายับเยิน
จนเพื่อนมันเคยทักว่าไปโดนข่มขื่นมาเหรอ!?

สาย 113 (มีนบุรี-หัวลำโพง)

รถสภาพโทรมชะมัด ประตูปิดไม่ได้ซักกะคัน
ในชั่วโมงเร่งด่วนคนอัดแน่นยังกะปลากระป๋อง แถมไม่ชอบจอดรับคนขึ้นด้วย
ขากลับจากหัวลำโพงแทนที่จะวิ่งเข้าพญาไท
มันดันมุดเข้าซอยบ้าอะไรไม่รู้ไปโผล่เอาบรรทัดทอง
คนที่รอขึ้นตรงสามย่านก็คอยไปเถอะ ชาตินึงกว่าจะโผล่มาทางพญาไทซักคัน





ปอ.1 (ปากคลองตลาด-มีนบุรี)

วิ่งจากมีนบุรี ผ่านหน้ารามฯ ผ่านพระโขนง ผ่านสุขุมวิท ผ่านสยาม
แล้วก็ไปปากคลองตลาด ด้วยความที่จากหน้ารามฯวิ่งไปสุขุมวิทมีสายเดียว
(แต่ก่อนมีสาย 40 ด้วย แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ผ่านรามฯแล้ว)
ทำให้คนแน่นมากถึงมากกว่าแน่นที่สุด แน่นจนเวลาขึ้นนี่กอดคนข้างๆ ได้สบายมาก
ยิ่งวันเสาร์หรือวันธรรมดาตอนชั่วโมงเร่งด่วนนะ....ฮึ่ม.....อย่าฝันเลยจะได้นั่ง
แต่พอถึงสุขุมวิท 24 (เอ็มโพเรียม-สวนเบญจสิริ) คนลงเกือบหมดรถเลย

สาย 33 (ปทุมธานี-สนามหลวง)

ที่จริงน่าจะเปลี่ยนเป็น นรก-อเวจี ดีกว่าครับ เร็วสุดๆ เคยนั่งช่วง 6 โมง
จากปากเกร็ดถีงสนามหลวง 25 นาที ตื่นไปเรียนไม่เคยนั่งหลับบนรถสายนี้เลย
เพราะเคยมีคนนั่งหลับแล้วรถเข้าโค้งหน้าวัดสร้อยทอง
ไม่รู้เจ้าที่แรงหรือเหตุอันใด
ชายผู้นั้นได้กระเด็นตกจากเบาะมาอยู่ที่พื้นรถโดยไม่รู้ตัว
แต่สามารถกลับขึ้นไปนั่งหลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เคยขึ้นสะพานแล้วลอยตัวอยู่ประมาณ 3 วินาที พอตกลงมากระจกข้างๆ
เราร้าวหมดทั้งแผ่นนึกว่ามอเตอร์ครอส เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ขอแนะนำครับ
คนในรถนั่งมองหน้ากันแบบ ... สงสัยว่าตูจะมีชีวิตรอดกลับไปมั้ยนี่?!

ปอ. 356 (ปากเกร็ด-รังสิต)

ถ้าคิดจะทำหนังย้อนยุคสัก 30 ปี แนะนำให้ใช้ประกอบฉากได้ ความเร็วไม่เกิน40กม.
ขับไม่เกินเกียร์ 3 วิ่งจากปากเกร็ด-หลักสี่ ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
แม้ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน เวลาเย็นรับสาวโรงงานกลับบ้าน จะจอดรอกันหน้าโรงงาน
เหมือนประหนึ่งเป็นอู่รถ แถมซ้อนกัน 3 คันอีกต่างหาก
จากสภาพรถไม่น่าเชื่อว่าจะไปถึง ม.ธรรมศาสตร์รังสิตได้
เคยเสียกลางทางคนขับบอกให้ช่วยๆกันเข็นหน่อย

สาย 57 (ตลิ่งชัน - คลองสาน)

เนื่องจากสายนี้ต้องผ่านสถานที่หลายแห่ง
ซึ่งเป็นที่เก่าแก่ มีประวัติ และเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เช่น
เมื่อผ่านโพธิ์สามต้นคนขับจะถูกผีมอเตอร์ไซค์วินเข้าสิง ซอกเล็กซอกน้อยพี่แกจะมุด
เบียด ปาด แซงซ้ายขวาเป็นที่หวาดเสียว ครั้นออกถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี
จะถูกผีรถบรรทุกเมายาบ้าเข้าสิง แข่งกันไล่บี้ชนิดไม่กลัวอุบัติเหตุ
จะจอดก็ตอนชนท้ายกับรถเก๋ง หรือรถพัง
และเคยไหมขึ้นไปนั่งบนรถแล้วมองเห็นล้อวิ่งหมุนอยู่เพราะใต้ท้องรถมันทะลุ!

ปอ. 126
สายนี้ผู้สนับสนุนหลักโดย The Mall เพราะวิ่งผ่าน The Mall ถึง 3 แห่ง คือ
ตั้งแต่งามวงศ์วาน บางกะปิ แล้วก็รามคำแหง
ส่วนสปอนเซอร์รองอีกราย คาดว่าจะเป็นเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ตอนนี้ผ่าน 2 เมเจอร์คือ
เมเจอร์รามฯ กะรัชโยธิน แล้วก็อีกนิดนึงจะผ่านเมเจอร์เอกมัย
โชคดีที่มาทะลุตรงพระโขนง


ปอ. 157 (ปอ.32 เดิม บางประกอก-หมอชิต)

เราคิดว่าเป็นรถเมล์สายที่ผ่านหน้าโรงพยาบาลมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งศิริราช
รามาฯ พระมงกุฎ ราชวิถี โรงพยาบาลเด็ก ศูนย์วิจัยมะเร็งโรคปอด เปาโล
และอีกมากมายที่จำไม่ค่อยจะได้ เหมาะสำหรับคนขี้โรคที่สังเกตุการณ์ รพ.

Related Articels

0 ความคิดเห็น

Leave a Reply


Copyright © 2017 อธิราช | Designed by 4x100Utd