เคยได้ยินประโยคนี้มั้ยคั้บ วันแห่วันเซิ้งงานบุญบั้งไฟ จัดยิ่งใหญ่สวยงามต้องที่จังหวัดยโสธร แต่ถ้าเป็นวันจุดบั้งไฟ ต้องที่ อ.พนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ดที่เดียว ซึ่งงานประเพณีจุดบั้งไฟที่อื่นๆมักจะสืบเนื่องมาจากประเพณีซะส่วนใหญ่ จำนวนบั้งไฟที่จุดจึงมีจำนวนไม่มาก แต่ที่ พนมไพร บั้งไฟที่นำมาจุดเกินครึ่ง เป็นบั้งไฟที่มาจากการแก้บนพระธาตุจากวัดกลางอุดมเวทย์ ทำให้มีจำนวนมาก ถึงมากที่สุดในโลก เพราะที่วัดจุดบั้งไฟที่อื่น อย่างที่ว่าดังๆเหมือนของยโสธร คนยังเกี่ยงกันจุดว่า เอ็งจุดก่อน ข้าจุดหลัง ค่ายเอ็งจุดก่อน ของข้าไว้ที่หลัง ที่พนมไพรก็เกี่ยงคั้บ แต่เกี่ยงกันจุดก่อน บางครั้งฐานหนึ่งยังแย่งกันเอาบั้งไฟขึ้นเทียบพร้อมกันสองบั้งก็มี บั้งไฟลูกลูกที่จุดในงานจะเริ่มจุดกันตั้งแต่ ตีสี่ ยังกะดาวตก (ที่อื่น สิบโมงแล้วยังไม่มีวี่แวว) อยากให้ไปดูกันคั้บ คนเรือนหมื่นทะลักไปทั่วฐานจุด ไปดูวัดจุดบั้งไฟที่พนมไพรแล้ว ที่อื่นจะ่นาเบื่อไปเลยคั้บเพราะรอนานมากกว่าจะเห็นบั้งไฟขึ้นแต่ละบั้ง แต่ที่พนมไพร นักพนันบั้งไฟไม่ต้องรอนาน ฐานจุดบั้งไฟแสนบั้งไฟล้าน 6ฐาน บั้งไฟหมื่น เป็นฐานยาวฐานเดียว บั้งไฟแสนบั้งไฟล้านผลัดกันถูกจุดขึ้นฟ้าแทบจะนาทีต่อนาที ส่วนบั้งไฟหมื่นไม่อยู่ในสายตาเลยคั้บ ขึ้นทียี่สิบบั้ง สะใจสุด คิดแล้วอยากไปอีก คิดถึงพี่น้องฝั่งนั้นมากกมาย อย่าลืมนะคั้บ 16-17 มิ.ย. 2554 เชิญเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟ 10 ล้าน อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
สถิติจำนวนบั้งไฟที่ร่วมจุดปี 2553
จำนวนบั้งไฟที่เข้ารวมจุดแข่งขัน ที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2553
บั้งไฟสิบล้าน จำนวน 3 บั้ง
บั้งไฟล้าน จำนวน 26 บั้ง
บั้งไฟแสน จำนวน 183 บั้ง
บั้งไฟหมื่น จำนวน 707 บั้ง
ผลการแข่ง
บั้งไฟแสน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 408 วินาที/ของนายเพชร ประเสริฐ์สังข์/จากค่ายเทพพนม/
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 373 วินาที/ของนางสาวอุไร มีแวว/จากค่ายเทพพนม/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 372 วินาที/ของพ่อเด็ดขาด-แม่ศิริรัตน์ /จากค่ายเทพพนม/
บั้ง ไฟล้าน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 362 วินาที/ของกำนันประกอบ บรรสุทธี/จากค่ายเทพเวลา/(ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ)
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 360 วินาที/ของคุณเดือนรัก สเตอริโอ/จากค่ายเทพเวลา/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 350 วินาที/ของแม่หนูจันทร์ แคมเปร/จากค่ายเทพเวลา/
บั้งไฟ 10 ล้าน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 73 วินาที/ของคุณวัชรินทร์ เอี่ยมรัศมีกุล/จากค่ายศิรินภา /
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 57 วินาที/ของนายมนตรี พันธ/จากค่ายเทพเวลา/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 35 วินาที/ของคุณพีระ เนตรวงษ์/จากค่ายเทพเวลา/
จำนวนบั้งไฟที่เข้ารวมจุดแข่งขัน ที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2553
บั้งไฟสิบล้าน จำนวน 3 บั้ง
บั้งไฟล้าน จำนวน 26 บั้ง
บั้งไฟแสน จำนวน 183 บั้ง
บั้งไฟหมื่น จำนวน 707 บั้ง
ผลการแข่ง
บั้งไฟแสน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 408 วินาที/ของนายเพชร ประเสริฐ์สังข์/จากค่ายเทพพนม/
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 373 วินาที/ของนางสาวอุไร มีแวว/จากค่ายเทพพนม/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 372 วินาที/ของพ่อเด็ดขาด-แม่ศิริรัตน์ /จากค่ายเทพพนม/
บั้ง ไฟล้าน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 362 วินาที/ของกำนันประกอบ บรรสุทธี/จากค่ายเทพเวลา/(ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ)
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 360 วินาที/ของคุณเดือนรัก สเตอริโอ/จากค่ายเทพเวลา/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 350 วินาที/ของแม่หนูจันทร์ แคมเปร/จากค่ายเทพเวลา/
บั้งไฟ 10 ล้าน อันดับที่ 1 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 73 วินาที/ของคุณวัชรินทร์ เอี่ยมรัศมีกุล/จากค่ายศิรินภา /
อันดับที่ 2 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 57 วินาที/ของนายมนตรี พันธ/จากค่ายเทพเวลา/
อันดับที่ 3 ที่พนมไพร 2553 ทำเวลา 35 วินาที/ของคุณพีระ เนตรวงษ์/จากค่ายเทพเวลา/
แต่ไม่รู้สินะ ทุกปี จะต้องมีคนตายเพราะอุบัติเหตุจากบั้งไฟ ยังงัยก็ระวังไว้เน้อ
บุญบั้งไฟ เป็นงานบุญประเพณีที่มีอยู่คู่คนอีสานมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการจุดเพื่อถวายปู่ตา อารักษ์ และบุญวิสาขบูชา เพื่อเป็นการบูชาเทพยดาอารักษ์ มเหศักดิ์หลักเมือง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้พระยาแถนหรือผีฟ้าบันดาลดลประทานฝนให้แก่มนุษย์โลก ซึ่งอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีการจัดงานบุญประเพณีจุดบั้งไฟมาอย่างช้านาน และยังเป็นแหล่งรวมบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นบั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน และยังเป็นแหล่งผลิตบั้งไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมทั้งการประกวดประชันบั้งไฟกันอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ก่อนที่จะนำไปจุดพุ่งขึ้นสู่ยอดฟ้าตื่นตาน่าอัศจรรย์
ประเพณีบุญบั้งไฟถือว่าเป็นประเพณีสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวพนมไพรประเพณี หนึ่งที่มีการจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมักจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี เพื่อบวงสรวง เซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้บันดาลสิ่งที่ดีแก่มนุษย์ ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ก่อนการทำนาจะมาถึง และจากตำนานบุญบั้งไฟนั้น ได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมา ตามความเชื่อของชาวอีสานอยู่ 2 ตำนานคือ ตำนานเรื่อง ผาแดงนางไอ่, ตำนานเรื่องพระยาคันคาก ซึ่งเรามักจะเห็นหุ่นจำลองเรื่องพระยาคันคาก หรือท้าวผาแดงนางไอ่ ประกอบในขบวนแห่บั้งไฟเสมอ
บุญบั้งไฟพนมไพรนอกจากจะจัดขึ้นตามประเพณีเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอ ฟ้าขอฝนแล้ว ยังเป็นการจัดเพื่อบวงสรวงองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ ที่ชาวพนมไพรให้ความเคารพนับถือ โดยเชื่อว่าองค์พระธาตุเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณเจ้าพ่อมหาธาตุที่คอยคุ้ม ครอง ปกปักรักษาให้ชาวพนมไพรมีความร่มเย็นเป็นสุข ผู้ที่ไปกราบไหว้ขอพรมักประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากการบูชาองค์พระมหาธาตุแล้วการจัดงานยังถือเป็นเทศกาลที่สำคัญ ที่ชาวพนมไพรซึ่งไปอยู่ในที่ต่างๆ จะต้องเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อมากราบไหว้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณและบรรพบุรุษของตนเอง และร่วมกิจกรรมงานบุญ มีความรื่นเริงสนุกสนานกันทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้คนที่มาเห็นแล้วต้องอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้ จนเป็นที่รู้จักกันในงาน จุดบั้งไฟ ไหว้พระธาตุ โฮมญาติพนมไพร
ภาพงานจากปีที่แล้วและปีที่ผ่านมาค้าบ
ประเพณีบุญบั้งไฟถือว่าเป็นประเพณีสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวพนมไพรประเพณี หนึ่งที่มีการจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมักจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี เพื่อบวงสรวง เซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้บันดาลสิ่งที่ดีแก่มนุษย์ ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ก่อนการทำนาจะมาถึง และจากตำนานบุญบั้งไฟนั้น ได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมา ตามความเชื่อของชาวอีสานอยู่ 2 ตำนานคือ ตำนานเรื่อง ผาแดงนางไอ่, ตำนานเรื่องพระยาคันคาก ซึ่งเรามักจะเห็นหุ่นจำลองเรื่องพระยาคันคาก หรือท้าวผาแดงนางไอ่ ประกอบในขบวนแห่บั้งไฟเสมอ
บุญบั้งไฟพนมไพรนอกจากจะจัดขึ้นตามประเพณีเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอ ฟ้าขอฝนแล้ว ยังเป็นการจัดเพื่อบวงสรวงองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ ที่ชาวพนมไพรให้ความเคารพนับถือ โดยเชื่อว่าองค์พระธาตุเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณเจ้าพ่อมหาธาตุที่คอยคุ้ม ครอง ปกปักรักษาให้ชาวพนมไพรมีความร่มเย็นเป็นสุข ผู้ที่ไปกราบไหว้ขอพรมักประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากการบูชาองค์พระมหาธาตุแล้วการจัดงานยังถือเป็นเทศกาลที่สำคัญ ที่ชาวพนมไพรซึ่งไปอยู่ในที่ต่างๆ จะต้องเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อมากราบไหว้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณและบรรพบุรุษของตนเอง และร่วมกิจกรรมงานบุญ มีความรื่นเริงสนุกสนานกันทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้คนที่มาเห็นแล้วต้องอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้ จนเป็นที่รู้จักกันในงาน จุดบั้งไฟ ไหว้พระธาตุ โฮมญาติพนมไพร
ภาพงานจากปีที่แล้วและปีที่ผ่านมาค้าบ
ขอบคุณ ภาพและข้อมูลจาก http://www.roiet.go.th/webboard/index.php?topic=7102.0